เรื่องที่เจ้าชายอัตราหาสารถีเพื่อเตรียมออกศึก กระจายไปในวงกว้างจนรู้เข้าถึงหูพฤหันนลา (อรชุน) ซึ่งปลอมตัวเป็นกระเทยคอยสอนการร้องรำให้กับพระธิดาของท้าววิราฏชื่อเจ้าหญิงอุตตรา
พฤหันนลาบอกกับเจ้าหญิงอุตตราว่าตนเองเคยเป็นสารถีให้กับอรชุน เมื่อครั้งที่อรชุนรบกับพระอินทร์เพื่อเผาป่าขาณฑวะ (แท้จริงแล้วสารถีคนนั้นคือพระกฤษณะ) อยากอาสาร่วมรบเพื่อตอบแทนพระคุณท้าววิราฏที่ได้คอยช่วยเหลือให้ที่พักพิง
เจ้าหญิงอุตตราจึงนำตัวพฤหันนลา เข้าพบกับเจ้าชายอัตรา และเล่าเรื่องราวเมื่อครั้งที่เคยเป็นสารถีให้กับอรชุนให้เจ้าชายอัตราฟัง
ในตอนแรกเจ้าชายอัตราก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้เป็นสารถี เนื่องจากเห็นว่าพฤหันนลามีทีท่าอ้อนแอ้น ไม่เหมาะสมกับการเป็นสารถีให้กับเจ้าชายอย่างตน แต่แล้วนางไศรรันธรี (เทราปที) ซึ่งอยู่ในราชสำนักตอนนั้นพอดี ก็พูดจาหว่านล้อมว่าช่วงเวลาคับขันไม่ควรคิดเล็กคิดน้อย ในที่สุดเจ้าชายอัตราก็ยินยอมให้พฤหันนลามาเป็นสารถีให้ตน
ระหว่างที่พฤหันนลาสวมเกราะเพื่อออกศึกนั้น ก็ทำท่าทางเหมือนไม่รู้ว่าจะสวมเกราะเช่นไร จนเจ้าชายอัตราร้อนใจต้องมาช่วยสวมเกราะให้ หลังจากสวมเกราะเสร็จสิ้นพฤหันนลาก็กล่าวกับเจ้าชายอัตราว่า บัดนี้ข้าพร้อมนำเจ้าชายไปบดขยี้กองทัพเการพที่มารุกรานแล้ว
จากนั้นกองทัพแคว้นมัสยะที่นำโดยเจ้าชายอัตรา ก็เคลื่อนกำลังพบออกไปเพื่อกวาดล้างกองทัพเการพให้หมดสิ้น